พระครูธรรมพลาธร ธัมมธีโร ( พ่อท่านพรหม วัดพลานุภาพ ) อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี
อ้างอิงจาก เอกสารทะเบียนราษฎร์ ( สำนักงานทะเบียน กระทรวงมหาดไทย )
.
ชื่อ : พระพรหม ธัมมธีโร ( ชื่อเดิม พรหม ราชบุตร )
เกิด : วันจันทร์ที่ 1 เมษายน 2461 ( ค.ศ.1918 ) แรม 5 ค่ำ เดือน 5 วันขึ้นปีใหม่ ปีมะเมีย
มรณภาพ : วันอาทิตย์ที่ 2 มิถุนายน 2562 ( ค.ศ.2019 ) แรม15 ค่ำ เดือน 6 ปีกุน เวลา 01.00 น. ด้วยอาการสบง สิริอายุ 101 ปี 32 พรรษา
.
อุปสมบท ครั้งที่ 1 : 2481 ( อายุครบบวช )
อุปสมบท ครั้งที่ 2 :วันเสาร์ ที่ 5 ธันวาคม 2530
ตรงกับวันเสาร์ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือนอ้าย(๑) ปีเถาะ เวลา 15.15 นาฬิกา สังกัดนิกาย มหายาน ณ วัดทุ่งพลา ( วัดพลานุภาพ ในปัจจุบัน )
.
ตำแหน่ง : อดีตเจ้าอาวาส วัดพลานุภาพ ( วัดทุ่งพลา )

เป็นบุตรนายสีแก้ว และ นางคำแก้ว ราชบุตร  บ้านเดิมบ้านเลขที่   33   ม. 5  ต.ทุ่งพลา อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี  บ้านห้วงเงาะ

พี่น้องร่วมบิดา และ มารดา และต่างมารดา รวม 7 คน  พ่อท่านเป็นคนสุดท้อง

ประวัติการศึกษา เมื่อเยาว์วัย

-พ่อท่านพรหม เมื่อวัยจะเข้าศึกษาก็ได้เข้าเรียนชั้นปฐมที่ โรงเรียน วัดพลานุภาพ(วัดทุ่งพลา)จนจบชั้นป.4 (อาคารเรียนคือที่ทำการ อบต. ทุ่งพลาหน้าประตูวัดปัจจุบัน)

จากนั้นได้ออกประกอบอาชีพช่วย พ่อแม่ ทำไร ทำนา ทางราชการติดต่อให้เป็นครูเพราะจบ ป.4 เงินเดือน 4 บาท แต่ผู้ปกครองไม่อนุญาติ

เมื่อครบกำหนดบวช จึงได้อุปสมบทที่วัดพลานุภาพหรือวัดทุ่งพลา (ราวปี พ.ศ. 2481)อายุครบ 20 ปี

ท่านก็ได้ลาสิขาบทในปี พ.ศ. 2484 ได้เกิดสงครามโลกครั้งที่2 ประมาณปี พ.ศ. 2485 ท่านได้ถูกเกณ์รวบรวมเพื่อนอีก 2 คน ไปสร้างทางรถไฟที่ จ.กาญจณบุรี (ทางรถไฟสามพราน จ.กาญจนบุรี)ขึ้นรถไฟที่สถานีนาประดู่ร่วมกับคนอื่นๆ เมื่อรถไฟขบวนนั้นไปถึงสถานีรถไฟหลังสวน จ.ชุมพร ท่านและเพื่อนอีก 2 คนก็ได้หาทางหลบหนีจากขบวนรถไฟขบวนนั้น ซ่อนตัวอยู่ที่บ้านพักพนักงานรถไฟโดยความช่วยเหลือของนายสถานีรถไฟขณะนั้น และได้หาทางกลับมาบ้านห้วยเงาะเมื่อสงครามสงบ(ราวปี 2484-2486)

อดีตผู้ใหญ่..แลผู้นำชมชุน ชีวิตการงาน

 หมู่ 4  บ้านลาแล   ต.กาบัง  อ.ยะหา จ.ยะลา

ราวปี พ.ศ. 2502 พ่อท่านพรหมได้อพยบครอบครัว ไปปักหลักทำมาหากินใหม่ ที่บ้านลาแล ต.กาบัง อ.ยะหา จ. ยะลา ประกอบอาชีพ เกษตรกรรม ปลูกยาง กาแฟ ข้าว และพืชไร่พันธ์ต่างๆเป็นผู้นำด้านการเกษตร

มีแนวคิดในการพัฒนาปรับปรุงและวางแผนพัฒนาพื้นที่หมู่บ้านเป็นที่ประจักษ์ จนเป็นที่ไว้วางใจและเป็นที่ยอมรับของชุมชนและราชการจึงได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 4 บ้านลาแล ต.กาบัง อ.ยะหา จ. ยะลา ท่านจึงทำหน้าที่ผู้ใหญ่บ้าน ตั้งแต่ปี พ.ศ.2513 ถึง พ.ศ.2527 ในระหว่างที่ปฏิบัติหน้าที่ผู้ใหญ่บ้านอยู่นั้นท่านได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลัง เช่นการวางแผน การเพาะปลูกชนิดต่างๆ เขียนพื้นที่อาณาเขตของหมู่บ้าน วางแผนการคมนาคม และการเพาะปลูก การเป็นผู้นำชุมชน จนเป็นที่ยอมรับของชาวบ้านทั้งไทยพุทธและไทย อิสลาม

     หลังจากได้ใช้ชีวิตอย่างเช่นสามัญชนทั่วไป โดยท่านได้กระทำในสิ่งที่ท่านตั้งใจไว้ อย่างครบถ้วน ท่านจึงได้ตัดสินใจหาความสุขทางใจ และทำนุบำรุง พระพุทธศาสนาซึ่งเป็นสิ่งที่ยั่งยืนถาวร ท่านจึ่งได้ก้าวข้ามมิติของชีวิตจาก ปุทุชน เข้าสู่ร่มกาสาวพัตร

         อุปสมบท  ครั้งที่ 2

        ในปี    2530    อายุ   69  ปี  อุปสมบทเมื่อ วันเสาร์ ที่   5  ธันวาคม   2530

ตรงกับวันเสาร์ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือนอ้าย(๑) ปีเถาะ  เวลา  15.15  นาฬิกา  สังกัดนิกาย  มหายาน  ณ  วัดทุ่งพลา ( วัดพลานุภาพ ) โดยมี

พระอุปัชฌาย์ คือ พระครูมนูญสมนการ ( พ่อท่านคิ้ม )

พระกรรมวาจาจารย์ คือ  พระเอียด   ( ไม่ทราบนามสกุล )

พระอนุสาวนาจารย์  คือ  พระหวาน   ( ไม่ทราบนามสกุล )

      ภายหลังจากบวช

    พ่อท่านพรหม ท่านได้ย้ายไปจำพรรษา ที่วัดห้วยเงาะ และ ในป่าช้าบ้านห้วยเงาะ ท่านใช้ชีวิตสงบเงียบในป่าช้า นาน ถึง 5 ปี จากนั้น ท่านได้ย้ายกลับมาจำพรรษาที่วัด พลานุภาพ ในปี พุทธศักราช 2536  ตรงกับวันอังคารที่  27  กรกฎาคม  พ.ศ.2536

9 ค่ำ เดือน 8   เวลา 11.00 น   ต่อมาในปี 2538  เจ้าอาวาส วัดพลานุภาพ ในขณะนั้น คือ พ่อท่านคิ้ม  ได้มรณภาพลง   พ่อท่านพรหม จึงได้รับตำแหน่ง เจ้าอาวาส วัดพลานุภาพ  ถือเป็นเจ้าอาวาสรูปที่ 5 แห่ง วัดพลานุภาพ 

รับตราแต่งตั้งเจ้าอาวาส

            เมื่อวันอาทิตย์ที่   15    สิงหาคม   2542     พรรษาที่ 11       12   ปี หลังจากบวช  อายุ   81 ปี  

ได้รับพระราชทาน  พัดยศ 

เลื่อนสมณศักดิ์จาก สมเด็จพระพุฒาจาราย์ ( เกี่ยว อุปเสโณ )  ณ วัดกะพังสุรินทร์  จ.ตรัง  เมื่อวันอังคารที่  27 มกราคม  2549  /19 ปีหลังจากบวช/ อายุ88ปี / 18 พรรษา

    พ่อท่านพรหม วัดพลานุภาพ   ท่านปฎิบัตหน้าที่เจ้าอาวาสได้อย่างสมบูรณ์

ท่านคือครูบาอาจารย์ ที่ทรงไว้ซึ่งภูมิธรรม ผู้ปฎิบัติดี  ปฎิบัตชอบ  ท่านแสดงให้เห็นถึงอภิญญา ความเมตตา และฌานอันเป็นเลิศ ท่านมีความรู้ความเชียวชาญด้านยาสมุนไพร อีกทั้งเรื่องวิชาไสยเวทย์ หรืออาคมต่างๆ ท่าน รู้เหตุการณ์ล่วงหน้าได้  วิชาเอกของท่านคือวิชาเพรชกลับ คือสวด อิติปิโส เดินหน้าและถ่อยหลัง   วิชาที่ว่าด้วยการปัดเป่าสิ่งร้ายๆให้กลายเป็นดี  แม้นแต่พ่อท่านเขียว วัดห้วยเงาะ ยังถึงกับเอ่ยปากชม  ถ้าใครจะสะเดาะเคารห์เสริมดวงชะตาให้ไปหาท่านพรหม เมื่อคราวที่พ่อท่านยังมีสุขภาพร่ายกายแข็งแรงอยู่นั้น  ท่านจะไม่อยู่เฉย ทำความสะอาด ถางหญ้า เก็บขยะ  บรูณปฏิสังขรณ์วัด   อยู่ตลอดเวลา

เริ่มสร้างวัตถุมงคล

 ปลายปี 2552   เริ่มมีชื่อเสียง 2553 เรื่อยมา

ย้ายกลับวัดห้วยเงาะ

เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2561  จวมจนมรณภาพ

มรณภาพเมื่อ

วันอาทิตย์ที่  2  มิถุนายน  2562 ( ค.ศ.2019 )   แรม15 ค่ำ  เดือน 6 ปีกุน  เวลา  01.00  น.  ด้วยอาการสบง     สิริอายุ  101  ปี    32  พรรษา 

 มรณภาพที่ วัดอรัญวาสิการาม  ( วัดห้วยเงาะ ) กุฎิ 3

ได้รับพระราชทานเพลิงศพ จาก  พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 9 มิถุนายน 2562  เวลา 19.00 น. ( เวลาเผาจริง ) ณ เมรุชั่วคราว วัดอรัญวาสิการาม(วัดห้วยเงาะ)